10 วิธีง่ายๆ ในการดูแล รักษา คอมพิวเตอร์ของคุณ

มาแล้วครับสำหรับผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์กันอยู่ทุกวัน เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยหนึ่งของเราเลยก็ว่าได้สำหรับคอมพิวเตอร์เองก็คล้ายกับตัวเราครับต้องดูแลเอาใจใส่ทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นจอคอมพิวเตอร์ ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันก็ต้องคอยตรวจเช็คกัน จะมีวิธีการอย่างไรนั้นลองมาดูกันครับ

มาทำความเข้าใจในเรื่องของคอมพิวเตอร์กันก่อน

คอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันๆบางทีเราอาจเคยสงสัยว่า แต่ละส่วน หรือองค์ประกอบหลักของคอมพิวเตอร์มีอะไรบ้าง จะขอแนะนำกันเล็กๆน้อยๆนะครับ สำหรับคอมพิวเตอร์เองจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และ ซอฟต์แวร์ (Software)

ฮาร์ดแวร์ คอมพิวเตอร์

ฮาร์ดแวร์ (Hardware)

สำหรับฮาร์ดแวร์คือ ส่วนที่เราสามารถจับต้องได้ทุกชิ้นครับไม่ว่าจะเป็น จอ, เคส, เมาส์, คีย์บอร์ด, หูฟัง, ซีพียู, เมนบอร์ด, อะไรที่สัมผัสได้เราก็เรียกว่าฮาร์ดแวร์ในส่วนของคอมพิวเตอร์ครับผม

ซอฟต์แวร์ คอมพิวเตอร์
ซอฟต์แวร์ (Software)
สำหรับซอฟต์แวร์คือ ส่วนที่เราใช้งานและควบคุมโดยการสังการจากฮาร์ดแวร์ครับ นั่นคือระบบปฏิบัติการ หรือที่เรารู้จักกันเช่น วินโดวส์(Windows) รวมถึงโปรแกรม แอพพลิเคชั่นต่างๆที่เราเห็นกันอยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Office, Winamp, MSN เป็นต้น
ที่เราต้องรู้จักกับสองอย่างทั้ง ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์กันก่อนก็เพราะว่ามันมีความสัมพันธ์กันครับหากเราดูแลแค่อย่างใดอย่างนึงก็ไม่ดีครับ
เพราะสองอย่างนี้จะทำงานกันได้ต้องมาเป็นคู่ครับ ถ้าเรามีคอมพิวเตอร์แต่ไม่มีโปรแกรมก็เล่นไม่ได้ ว่ากันง่ายๆเลย ^^
วิธีดูแลรักษาคอมพิวเตอร์

มาว่ากันด้วยวิธีการดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ง่ายๆ 10 วิธีดังนี้

วิธีดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ เช็ดทำความสะอาด
1.ทำความสะอาดคอมพิวเตอร์บ้าง : วิธีการทำความสะอาดคอมพิวเตอร์นั้นไม่ยากอย่างที่เราคิดครับ แต่ก็ต้องทำให้ถูกหลักด้วยนะครับ เริ่มจากการถอดปลั๊กไฟก่อน และทำความสะอาดโดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่า หรือน้ำยาทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ เช็ดส่วนต่างๆที่เป็นตัวเครื่องหรือกรอบหน้าจอ เมาส์ คีย์บอร์ด รวมถึงสายไฟคอมพิวเตอร์
2.เป่าฝุ่นหรือกำจัดฝุ่นที่อยู่บนตัวเครื่อง : สำหรับวิธีนี้แนะนำให้ใช้แปลงทาสีที่มีขนอ่อนๆ อาจจะเป็นแปรงด้ามไม้ไผ่หาซื้อได้ตามร้านวัสดุก่อสร้างครับ เพราะหน้าจอหรือตัวเครื่องบางรุ่น หากใช้แปรงที่มีขนหนาอาจทำให้เป็นรอยได้ อย่าลืมใส่ผ้าปิดจมูกก่อนทำความสะอาดนะครับถ้าใครมีเครื่องเป่าฝุ่นหรือเป่าลม สามารถเป่าเครื่องได้นะครับเพื่อไล่ฝุ่นออกจากคอมพิวเตอร์
3.ตรวจเช็คความเรียบร้อยภายในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ : วิธีนี้อาจยุ่งยากหน่อยสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดในด้านการช่างครับ เพราะต้องทำการเปิดฝาเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยจะต้องไขน็อตที่ล็อกฝาข้างอยู่ ควรตรวจเช็คพัดลมระบายความร้อนและสายไฟที่อยู่ภายในครับว่ายังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีอยู่หรือเปล่าเพราะความร้อนก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คอมพิวเตอร์เสียได้เพราะอุปกรณ์สึกหรอ
วิธีดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ พัดลมระบายความร้อน
4.จัดวางคอมพิวเตอร์ให้ถูกหลัก : สำหรับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ การจัดวางหน้าจอคอมพิวเตอร์ควรวางให้ห่างจากกำแพง หรือมีช่องว่างด้านหลังจอประมาณ 1 ไม้บรรทัด ครับเพราะความร้อนที่กระจายออกมาจะได้มีการระบายที่โล่งและไม่เกิดอุณหภูมิสูง รวมถึงตัวเคสคอมพิวเตอร์ก็ควรตั้งในที่มีช่องระบายความร้อนให้ลมสามารถพัดเข้า-ออกได้ ผู้ที่ใช้โน้ตบุ้คก็เช่นเดียวกันครับ ควรยกระดับด้านล่างของโน้ตบุ้คให้มีช่องว่างระบายอากาศด้านล่างด้วย เนื่องจากโน้ตบุ้คจะมีความร้อนที่สูงกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป แนะนำให้หาพัดลมตัวเล็กๆ หรือพัดลมตั้งพื้นเป่าจะแน่นอนสุดครับ เย็นทั้งคนและเครื่อง
5.เข้าศูนย์หรือร้านซ่อมคอมใกล้บ้าน : วิธีนี้สำหรับคนที่ไม่สะดวกในการจัดการคอมพิวเตอร์ก็ต้องฝากให้เป็นงานของช่างคอมพิวเตอร์ช่วยตรวจสอบกันว่าอุปกรณ์ต่างๆยังอยู่ในสภาพดีไหม ก่อนตรวจเช็คสอบถามราคาในการดำเนินการก่อนนะครับ ^^
วิธีดูแลรักษาคอมพิวเตอร์
6.จัดการไฟล์ที่ไม่ได้ใช้แล้วหรือไม่สำคัญ : ไฟล์ต่างๆที่เราดาวน์โหลดมาหรือเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์หากไม่ได้ใช้งานแล้ว หรือไม่สำคัญก็ควรลบทิ้งจากเครื่องคอมพิวเตอร์ครับ เพราะจะทำให้ไม่หนักเครื่องในส่วนของหน่วยความจำ จะได้พร้อมและมีทีว่างรับข้อมูลใหม่
7.จัดระเบียบโฟลเดอร์ต่างๆ : ในส่วนนี้จะช่วยประหยัดทั้งเวลาและช่วยในเรื่องการทำงานของเราได้เลยครับเพราะหากเราจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ต่างๆให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เวลาที่หาไฟล์ต่างๆก็จะสะดวกมากขึ้น เครื่องก็จะทำงานไม่หนักครับ
8.กำจัดและสแกนไวรัสในคอมพิวเตอร์ : วิธีนี้อาจต้องใช้เวลาหน่อยครับเพราะแน่นอนว่าสำหรับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์มานานข้อมูลต่างๆรูปภาพไฟล์เพลง งานต่างๆมากมายที่อยู่ในเครื่องมาจากหลากหลายที่ ทำให้มีไวรัสแฝงตัวอยู่ในโฟลเดอร์ต่างทั้งที่เราไม่รู้บ้าง ยิ่งข้อมูลมากยิ่งใช้เวลาสแกนนานมากขึ้น ลองหาโปรแกรมสแกนไวรัสสักตัวอย่างเช่น nod32 เพื่อให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ไม่มีปัญหาครับ
วิธีดูแลรักษาคอมพิวเตอร์
9.ลบโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้งานทิ้ง : หากเรารู้ว่าโปรแกรมไหนที่เราไม่ได้ใช้งานแล้ว หรือเกมส์ต่างๆที่เราลงไว้ในคอมพิวเตอร์ไม่ได้เล่นเราควรจะลบออกครับเช่นเดียวกับโฟลเดอร์และไฟล์ เพราะจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไม่ทำงานหนักที่ต้องเตรียมโปรแกรมต่างๆคอยเสิร์ฟเวลาที่เราจะใช้งาน
10.หมั่นหาวิธีหรือการใช้งานที่ถูกต้อง : จริงๆแล้ววิธีนี้ก็คือการใช้งานคอมพิวเตอร์ให้ถูกต้องตามพื้นฐานครับ เพราะถ้าเราไม่รู้หลักในการใช้งานแล้ว ตั้งแต่ข้อ 9 จนถึง 1 ที่กล่าวมาก็อาจทำให้เราละเลยในการดูแลรักษาคอมพิวเตอร์จากการใช้งานที่ไม่ถูกต้องได้ ไม่ยากครับเพียงแค่เราคอยเอาใจใส่ทั้งตัวเราและคอมพิวเตอร์ ต้องเริ่มจากตัวเราก่อนครับเพราะถ้าเราไม่ดูแลสุขภาพตัวเราก่อน เวลาที่เราจะดูแลคอมพิวเตอร์ก็จะมีน้อยลงครับ

ที่มา : tososay.com

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

วิธีการตั้งค่าแอร์การ์ดให้รับแต่สัญญาณ 3G (ใช้ได้กับ TruemoveH,AIS & Dtac ที่ใช้ของหัวเว่ย)

ช่วงนี้หลังจากค่ายมือถือต่างเริ่มให้บริการ 3G ในบ้างพื้นที่กันแล้ว โปรโมชั่น ช่วงแรกๆรู้สึกว่ายังแพง ก็นะใช้ไปก่อนมันเร็วดี สำหรับใครที่ติดเน็ตบ้านไม่ได้ แต่ทุกอย่างมันคงไม่ได้เป็นเหมือนที่ฝันไว้(เช่นในนิยาย) ผมเองก็พึ่งจะเริ่มใช้ 3G ซื้อแอร์การ์ดของ TruemoveH มา ลองเล่น 3G ดู วันแรกเล่นสนุกมากมาย ไม่มีสะดุด แต่วันหลังๆ ผมเจอปํญหาว่า มันมีการข้ามสัญญาณกัน(Roaming) ระหว่าง EDGE กับ WCDMA(3G) จากรูปตัวอย่าง

ทำให้เล่นแล้วสะดุด ซึ่งความเร็วของ 3G มันต่างจาก EDGE มาก หากเราเสียเงินใช้ 3G แล้วได้ใช้บ้างไม่ไช้บ้างคงไม่คุ้มเท่าไร ผมจึงหาข้อมูลพบว่าเราเลือกรับแต่ 3G ได้ ทำดังนี้ครับ
เปิดโปรแกรมแอร์การ์ดขึ้นมา ถ้าเป็นของหัวเว่ย(Huawei) จะตั้งค่าเหมือนกัน ใช้ได้กับแอร์การ์ดของศูนย์ Truemove ,TruemoveH,AIS & Dtac หน้าตาเหมือนกันต่างแค่โลโก้ค่ายเท่านั้นแหละ
ที่เมนู Tools เลือก Option

ปที่ Network เลือก WCDMA Only กด Apply กด OK


เท่านี้ก็เรียบร้อย อ๋อที่มันเกิดการข้ามสัญญาณกัน(Roaming) เพราะป้องกันกรณีไม่มีสัญญาณ 3G จะให้ไปใช้ EDGE แทน แต่เท่าที่รองเล่น 3G สัญญานอ่อนๆ แรงกว่าครับ ถ้าโปรแกรมอื่น ก็ให้หาตั้งค่าที่ Network ครับ ทำเหมือนกัน
ข้อมูลเสริม เผื่อบ้างคนไม่ค่อยรู้เรื่องสัญญานว่า WCDMA มันคืออะไร ตอบตรงๆมันคือ สัญญาณ 3G ครับโดยสัญญานโทรศัพท์แบ่งออกเป็นดังนี้
Truemove H เป็นชื่อ ใหม่ ของ Hutch
HUTCH ระบบ CDMA200-1x EVDO ความถี่ 850
TRUEMOVE ระบบ GSM EDGE,GPRS ความถี่ 1800
CAT CDMA ระบบ cdma2000-1x EVDO ความถี่ 850
CAT 3G หรือ Truemove H ระบบ WCDMA hspda hsupa hspa ความถี่ 850

Dtac 2G ระบบ GSM EDGE,GPRS ความถี่ 1800
Dtac 3G ระบบ WCDMA hspda hsupa ความถี่ 850

AIS 2 G GSM EDGE,GPRS ความถี่ 900
AIS 2 G GSM EDGE,GPRS ความถี่ 1800
AIS 3G WCDMA hspda hsupa ความถี่ 900 เคดิตคุณ sky_dear

TOT WCDMA hspda hsupa ความถี่ 2100

พูดง่ายๆเลยดีกว่า 2G คือ สัญญาณที่เราใช้โทรคุยกัน และเล่นเน็ต gprs edge ส่วนใหญ่เป็นระบบ GSM
3G คือ สัญญาณที่ใช้รับข้อมูลความเร็วสูงพวก Multimedia ส่วนใหญ่เป็นระบบ WCDMA และ HSPDA HSUPA HSPA เป็นชื่อเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ

ความถี่สัญญานเกี่ยวข้องกับการเลือกอุปกรณ์ต้องรองรับครับ เช่น จะใช้ของ AIS ต้องมีแอร์การ์ด หรือมือถือที่รับ WCDMA ความถี่ 900 เป็นต้น ความถี่เดียวกันก็ใช้อุปกรณ์ด้วยกันได้ แต่เท่าที่สังเกตแอร์การ์ดใหม่ๆจะรับ EDGE,GPRS ได้ทุกค่าย
ตัวอย่างการอ่านสเป็กแอร์การ์ด จากรูปนี้แปลว่าอุปกรณ์ตัวนี้รับ 3G ได้ที่ความถี่ 2100 MHz & 850 MHz (ใช้ได้กับ Truemove , TruemoveH , Dtac & TOT)

EDGE,GPRS รับได้ที่ความถี่ 1900\1800\900\850 MHz (ใช้ได้ทุกค่าย)
ส่วนรูปนี้เป็นการตั้งค่าแอร์การ์ดของค่ายต่างๆ เคดิตเว็บ Viva 3G

ขอให้สนุกกับการใช้ 3G ครับ ข้อมูลผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย ไม่ได้เก่งอะไร แค่อยากรวบรวมเขียนคนที่ไม่รู้เหมือนผมตอนแรกจ้า
 
ที่มา : zeedprogram.exteen.com

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

วิธีเข้า Startup Options Menu ของ Windows 8

สำหรับคนที่ใช้ Windows 7 เมื่อต้องการจะเข้า Startup Options Menu เพื่อจะเลือกใช้ออฟชันต่างของวินโดวส์นั้นทำได้ง่าย เพียงในช่วงที่เครื่องบูตให้กคคีย์ F8 ก็จะเข้า Startup Options Menu ได้แล้ว สำหรับ Windows 8 ทำแบบนั้นไม่ได้เพราะไม่มีการให้กด F8 จะให้บูตขึ้นมาก็ได้แต่เครื่องนั้นต้องลง Windows 8 แบบมัตติบูต (โอเอส 2 ตัวขึ้นไป)



แต่สำหรับคอมพิวเตอร์ที่ซื้อใหม่และ Windows 8 ติดมาแล้วหรือเครื่องที่ลง Windows 8 ตัวเดียว ค่าดีฟอลต์ของวินโดวส์จะบูตเครื่องผ่าน Startup Options Menu ไปที่หน้าล็อกอิน แต่ถ้าเราต้องการจะใช้หรือดูว่าใน Startup Options Menu นั้นมีออฟชันอะไรบ้าง เราก็สามารถทำได้ดังนี้



1.ให้กดคีย์ Windows + I เพื่อเรียก Start Charms bar ออกมา แล้วคลิกที่ Change PC settings






2.จะมาที่หน้า PC Settings ให้คลิกที่ General แล้วหารายการ Advanced startup (อยู่ด้านล่างให้สกอลล์ลงมา) จะพบคำสั่งRestart now






3.ถ้าเราคลิกที่คำสั่งนี้เมื่อเครื่องรีสตาร์ทจะเข้ามาที่Startup Options Menuซึ่งมีออฟชันให้เราใช้งานอีก






เมื่อคลิกที่ Troubleshoot ก็ยังมีออฟชันย่อยให้ใช้อีก






เมื่อคลิกที่ Advanced options






ที่มา http://notebookspec.com/การเข้า-startup-options-menu-ของ-windows-8/138265/

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS